Life Management
การวางแผนทางการเงิน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับตัวเอง และส่งต่อครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง

Life Management

สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับตัวเอง ส่งต่อให้ครอบครัว เพื่อน และ คนรอบข้าง

หลายเดือนก่อน ทางณภัทร ได้มีโอกาสไป วิเคราะห์ลายผิวมือกับศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (Panyatara Potential Analysis Centre – P-PAC)   บริการวิเคราะห์ศักยภาพและบุคลิกภาพด้วยลายผิววิทยา โดยแบ่งการบริการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงสแกนและเก็บลายนิ้วมือ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
ช่วงฟังผลการวิเคราะห์ โดยจะได้รับรายงานผล (20 หน้า) และการฟังผลการวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านลายผิววิทยา เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ด้วยความอยากรู้ว่าศักยภาพของเราแท้จริงนั้นเด่นเรื่องไหนบ้าง และ ควรพัฒนาด้านใด จึงได้ซื้อเป็นแพคเกจเข้าไป ใช้บริการ
ผลของตัวเองออกมาเป็นนกแก้ว หลากสี ส่วนจะมีกี่ประเภท รายละเอียดเป็นยังไงบ้าง ได้นำข้อมูลมาสรุปไว้ให้ดังนี้
คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ที่ริเริ่มในการนำ P-PAC มาเผยแพร่ในเมืองไทย นอกจากการวิเคราะห์บุคคลภายในบริษัทเครือ CP แล้ว P-PAC ยังเปิดบริการให้แก่บุคคลภายนอก ซึ่งกลายเป็นว่าเป็นลูกค้าภายนอกมากกว่าภายในองค์กรเสียอีก ปัจจุบันลูกค้าของ P-PAC มีตั้งแต่เด็กอายุสองสามเดือน ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงในองค์กรต่าง ๆ และมีแนวโน้มว่าจะมีลูกค้ากลุ่มบุคคลทั่วไปมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา

การวิเคราะห์ลายผิวนั้นแตกต่างจากการดูลายมือแบบหมอดูดังนี้

1.P-PAC ดูที่ลายผิวที่เป็นสันบนนิ้วมือ (Ridge) ไม่ใช่บริเวณที่เป็นร่องลงไป (Furrow) เหมือนที่หมอดูดูเส้นต่างๆ บนฝ่ามือ

2.ลายผิวของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิตของเรา จะมาทำ P-PAC ตั้งแต่ 2 ขวบก็ได้ หรือ 80 ปีก็ได้ และลายผิวนี้เป็นการใช้ระบุตัวบุคคล แม้จะเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันทุกอย่าง แต่ลายผิวนิ้วมือจะไม่เหมือนกัน มีวงปีต่างกันเหมือนวงปีต้นไม้ ดังนั้น FBI จึงสแกนลายผิวนิ้วมือและใช้เก็บข้อมูลบุคคล แต่ถ้าเป็นเส้นลายมือจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกาย

3.P-PAC จะบอกสิ่งที่ติดตัวคุณมาตั้งแต่กำเนิด บอกเราเรื่องอดีตได้ แต่ไม่ได้บอกอนาคต การบอกถึงสิ่งที่คุณมีเพื่อที่คุณจะได้มองเห็นว่าอนาคตคุณจะทำอย่างไรกับชีวิตของคุณ P-PAC จะทำหน้าที่เสมือนกับ “แผนที่ชีวิต” ทำให้คุณสามารถเลือกที่จะพัฒนาศักยภาพของคุณเองต่อไปได้ ส่วนหมอดูมักจะพูดถึงอดีตที่ผ่านมาหรืออนาคตที่ยังไม่เกิดก็ได้

4.คุณก่อศักดิ์เน้นย้ำว่า P-PAC ทำมาเพื่อให้คุณเข้าใจตนเอง รู้ว่าคุณมีจุดแข็งด้านไหน เพื่อเสริมจุดเด่นที่สุด ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้รู้ว่าคุณมีจุดอ่อนด้านไหน เพื่อควบคุมจุดด้อย เมื่อทราบอย่างนี้แล้วคุณจะได้วางแผนที่จะพัฒนาเป้าหมายชีวิตของคุณ ดึงศักยภาพที่แฝงอยู่มาใช้ให้เต็มที่ ในขณะที่หมอดูจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจ ให้กำลังใจ และทักเตือนในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต

5.หมอดูอ่านเส้นลายมือแล้วทายได้เลยและดูบ่อยเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ P-PAC ทั้งชีวิตดูเพียงครั้งเดียว ส่วนวิธีการจะซับซ้อนกว่า เพราะหลังจากสแกนนิ้วทั้ง 10 นิ้วแล้ว จะส่งลายผิวไปวิเคราะห์และถอดรหัสที่ประเทศไต้หวัน แล้วส่งผลกลับมาที่เมืองไทยเพื่อจัดหมวดหมู่ในการวิเคราะห์แต่ละด้าน

คุณก่อศักดิ์ต้องการให้ P-PAC เป็นเครื่องส่งเสริมให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่เขาชอบและถนัด ไม่อยากให้เด็กถูกพ่อแม่บีบบังคับเรียนในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ คุณก่อศักดิ์ยกตัวอย่างครอบครัวหนึ่งที่แม่อยากให้ลูกคนโตเรียนวิศวะ ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้อยากเรียนสถาปัตย์ แต่เด็กก็ยอมเลือกตามแม่จึงสอบเข้าเรียนคณะวิศวะ พอลูกคนที่ 2 อยากเรียนนิเทศฯ แต่แม่ยังอยากให้เข้าเรียนวิศวะตามพี่ไป พอดีว่า P-PAC เข้ามาในปี พ.ศ.2553 ครอบครัวนี้ได้มาสแกนลายผิว ลูกคนเล็กมีนิสัย บุคลิก และความถนัดที่เหมาะสมที่จะเรียนคณะนิเทศฯ แม่จึงยอมให้เรียน ส่วนพี่น่าสงสารเมื่อผลออกมาแล้ว เขามีความสามารถทางสถาปัตยกรรมชัดเจน แต่กลับต้องไปเรียนวิศวะตามที่แม่เลือกให้… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/699051/

สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ประโยชน์ของการเข้าใจตัวเองทำให้เราไม่ยึดติดกับตัวตนมากเกินไป สามารถเปิดใจยอมรับผู้อื่นมากขึ้น และยังวางแผนชีวิตตนเองได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาใช้บริการ ต้องการรู้จักวิธีดูแลบุตรหลาน กระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการได้เหมาะสมถูกต้อง บางคนอาจมีคำถามว่าอายุมากแล้วรู้ไปก็แก้ไขไม่ได้ ซึ่งความจริงแล้วการรู้จักตนเองนั้น อายุ 50 ปีก็ยังไม่สาย คนเราในแต่ละช่วง เวลาย่อมมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไป วัยเด็กมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน เมื่อเรียนจบประกอบอาชีพการงาน จากนั้นสร้างฐานะครอบครัว ทุกช่วงเวลาล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายชีวิตแตกต่างกันไป การรู้จักตนเองทำให้เราไม่ไขว้เขวไปตามสภาพแวดล้อม มีสมาธิอยู่กับทิศทางที่ชัดเจน

นก 5 ประเภทเป็นตัวแทนบุคลิกหลัก ได้แก่

นกเหยี่ยว เน้นผลลัพธ์ มุ่งมั่นกับเป้าหมาย  รักอิสระไม่ชอบให้ใครมายุ่ง  ต้องการความชัดเจนตรงประเด็น

นกห่านป่า เน้นการทำตามมาตรฐาน  เคารพกติกา และละเอียดรอบคอบ มีความระมัดระวัง ใส่ใจในคุณภาพ

นกยูง เน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ชอบแบ่งปัน ใส่ใจในภาพลักษณ์ มีชีวิตชีวา ชอบให้ความร่วมมือ

นกกระจอกเทศ เน้นการทำงานด้วยความอดทน  มานะ บากบั่น ไม่ชอบความขัดแย้ง มีความกลมเกลียว อ่อนโยน ให้ความร่วมมือกับทีม

นกแก้ว  ปรับตัวได้เก่ง สามารถตัดสินใจได้ทันทีในสถานการณ์เฉพาะหน้า และการบูรณาการข้อมูล ชอบการเปลี่ยนแปลง

 

นกทั้ง 5 ชนิดเป็นสัญลักษณ์แนวโน้มในการแสดงออกเชิงพฤติกรรม แบ่งเป็นการกำหนดเป้าหมาย จุดยืน และคุณค่าของตัวตน วิธีการทำงาน การวางแผนการตัดสินใจ และการผูกสัมพันธ์กับผู้อื่น นกยูงมักจะเป็นผู้ริเริ่มเข้าไปแนะนำตัวเอง นกกระจอกเทศจะหลบมุมในงานเลี้ยง หรือนกแก้วจะสนุกสนานอารมณ์ดี ฯลฯ คนส่วนใหญ่จะมีนกตัวหลักและนกตัวรองประกอบ 1 – 4 ตัว เพิ่มความซับซ้อนในบุคลิกภาพ

ตัวอย่าง พฤติกรรม ออมเงิน เหมือน “นก” อะไร?

โดย คุณพัชราภรณ์ คงสวัสดิ์     [นักวิเคราะห์ศักยภาพ  ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (P-PAC)]

ได้สรุปไว้อย่างน่าสนใจ  >>> อ่านต่อ (click)

ทาง P-Pac ได้ขอสัมภาษณ์ หลังจากได้ฟังผลการวิเคราะห์ลายผิว

5/5

 Like & Share บอกต่อสิ่งดี ๆ  หรือ บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

รับทันทีส่วนลด 25% จากบริการปกติ 10,000 บาท ชำระเพียง 7,500 บาท/ท่าน เมื่อ

1. เปิดดูคลิปวิดิโอ Guest ประจำเดือนของ P-PAC (ติดตามได้ใน Facebook P-PAC)

2. กดแชร์ไปที่หน้า facebook ของท่านและตั้งค่าเป็นสาธารณะ

3. พร้อมแคปเจอร์หน้าจอมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ทราบเมื่อชำระเงิน 

“3 ขั้นตอนง่าย ๆ เท่านี้ คุณลูกค้าก็จะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 25% สำหรับการเข้ารับบริการวิเคราะห์ศักยภาพและบุคคลิกภาพกับทาง P-PAC ค่ะ”

B Napat

FChFP & Investment Consultant